นพวิชญ์ ม.4/13 เลขที่141.choroplastนั้นเป็น organelleที่ใช้ในการสังเคราะห์แสงของพืช ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้จากการสังเคราะห์แสงคือ"กลูโคส"ซึ่งกลูโคสที่ได้จะนำไปใช้ในการหายใจระดับเซลล์ซึ่งเกิดที่mitochondriaต่อไป2.ปฏิกิริยาRedoxคือ ปฏิกิริยาที่เกี่ยวกับการรับส่งอิเล็กตรอน แบ่งเป็น2ปฏิกิริยาคือ2.1ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น คือปฏิกิริยาที่สารเสียอิเล็กตรอน2.2ปฏิกิริยารีดักชัน คือปฏิกิริยาที่สารได้รับอิเล็กตรอนซึ่งปฏิกิริยารีดอกซ์ซึ่งเกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตคือปฏิกิริยาเมตาบอลิซึม3.ไม่เข้าใจเรื่องนี้ครับ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
นาย ณัฐดนัย ศรีสวัสดิ์พงศ์ ชั้น ม.4/13 เลขที่ 51.Chloroplast และ mitochondria เป็น organelles ที่เปลี่ยนพลังงานรูปหนึ่งไปอีกรูปหนึ่งโดยใน Chloroplast เกิดกระบวนการ photosynthesis พลังงานแสงถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานสะสมในคาร์โบไฮเดรต และ ที่ mitochondria เกิดกระบวนการ cellular respiration พลังงานที่เก็บไว้ในคาร์โบไฮเดรตจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานในรูป ATP ซึ่งสิ่งมีชีวิตจะนำไปใช้ในเซลล์ต่อไป2.ปฏิกิริยาเมตาบอลิซึมในร่างกายเป็นปฏิกิริยา redox ปฏิกิริยาredox ให้พลังงานชีวเคมีกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เพื่อสร้างสารATPได้3.ปฏิกิริยาการสลายกลูโคสของการหายใจระดับเซลล์ ถ้าเป็นการหายใจแบบใช้ออกซิเจน ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้น 4 ขั้น คือ3.1.ไกลโคไลซิส (glycolysis) - กระบวนการนี้เกิดขึ้นในไซโทพลาสซึมของเซลล์- เป็นกระบวนการสลายน้ำตาลเฮกโซส(hexose) คือ น้ำตาลที่มีคาร์บอน 6 อะตอม เช่น น้ำตาลกลูโคส ให้กลายเป็นกรดไพรูวิก(pyruvic acid)ซึ่งเป็นน้ำตาลที่มีคาร์บอน 3 อะตอม จำนวน 2 โมเลกุลปฏิกิริยาไกลโคไลซิสนี้เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนจะมีเอนไซม์เฉพาะเข้าร่วมทำให้เกิดปฏิกิริยา3.2.การสร้างอะเซทิลโคเอนไซม์ เอ- เกิดจากกรดไพรูวิก ซึ่งมีคาร์บอน 3 อะตอม ทำปฏิกิริยากับโคเอนไซม์ เอ ได้อะเซทิลโคเอนไซม์ เอ ที่มีคาร์บอน 2 อะตอมเข้าสู่กระบวนการวัฏจักรเครบส์ต่อไป- เมื่อเสร็จสิ้นปฏิกิริยาของกระบวนการนี้จะเกิด CO2 2 โมเลกุล เกิดไฮโดรเจน 4 อะตอม เนื่องจากมรกรดไพรูวิกเข้าทำปฏิกิริยา 2 โมเลกุล ซึ่งมี NAD+ มารับกลายเป็น 2(NADH+H+)3.3.วัฏจักรเครบส์ - กระบวนการนี้เกิดขึ้นในไมโตคอนเดรียบริเวณของเหลว- การสลายกลูโคส 1 โมเลกุล เกิด acetyl Co.A 2 โมเลกุล จึงต้องเกิดวัฏจักรเครบส์ 2 รอบ3.4.กระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอน- เกิดขึ้นในไมโตคอนเดรียบริเวณปุ่มเล็ก ๆ ของเยื่อชั้นในของไมโตคอนเดรีย- เกิดขึ้นในภาวะที่มีการหายใจแบบใช้ออกซิเจน คือ มี O2 อยู่ด้วย- พลังงาน ATP ที่เกิดจากกระบวนการอิเล็กตรอนนี้จะได้มากที่สุดถึง 34 ATP จากการสลายกลูโคส 1 โมเลกุล
นพวิชญ์ ม.4/13 เลขที่14
ตอบลบ1.choroplastนั้นเป็น organelleที่ใช้ในการสังเคราะห์แสงของพืช ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้จากการสังเคราะห์แสงคือ"กลูโคส"
ซึ่งกลูโคสที่ได้จะนำไปใช้ในการหายใจระดับเซลล์ซึ่งเกิดที่mitochondriaต่อไป
2.ปฏิกิริยาRedoxคือ ปฏิกิริยาที่เกี่ยวกับการรับส่งอิเล็กตรอน แบ่งเป็น2ปฏิกิริยาคือ
2.1ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น คือปฏิกิริยาที่สารเสียอิเล็กตรอน
2.2ปฏิกิริยารีดักชัน คือปฏิกิริยาที่สารได้รับอิเล็กตรอน
ซึ่งปฏิกิริยารีดอกซ์ซึ่งเกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตคือปฏิกิริยาเมตาบอลิซึม
3.ไม่เข้าใจเรื่องนี้ครับ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบนาย ณัฐดนัย ศรีสวัสดิ์พงศ์ ชั้น ม.4/13 เลขที่ 5
ตอบลบ1.Chloroplast และ mitochondria เป็น organelles ที่เปลี่ยนพลังงานรูปหนึ่งไปอีกรูปหนึ่ง
โดยใน Chloroplast เกิดกระบวนการ photosynthesis พลังงานแสงถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานสะสมในคาร์โบไฮเดรต และ ที่ mitochondria เกิดกระบวนการ cellular respiration พลังงานที่เก็บไว้ในคาร์โบไฮเดรตจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานในรูป ATP ซึ่งสิ่งมีชีวิตจะนำไปใช้ในเซลล์ต่อไป
2.ปฏิกิริยาเมตาบอลิซึมในร่างกายเป็นปฏิกิริยา redox ปฏิกิริยาredox ให้พลังงานชีวเคมีกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เพื่อสร้างสารATPได้
3.ปฏิกิริยาการสลายกลูโคสของการหายใจระดับเซลล์ ถ้าเป็นการหายใจแบบใช้ออกซิเจน ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้น 4 ขั้น คือ
3.1.ไกลโคไลซิส (glycolysis)
- กระบวนการนี้เกิดขึ้นในไซโทพลาสซึมของเซลล์
- เป็นกระบวนการสลายน้ำตาลเฮกโซส(hexose) คือ น้ำตาลที่มีคาร์บอน 6 อะตอม เช่น น้ำตาลกลูโคส ให้กลายเป็นกรดไพรูวิก(pyruvic acid)ซึ่งเป็นน้ำตาลที่มีคาร์บอน 3 อะตอม จำนวน 2 โมเลกุล
ปฏิกิริยาไกลโคไลซิสนี้เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนจะมีเอนไซม์เฉพาะเข้าร่วมทำให้เกิดปฏิกิริยา
3.2.การสร้างอะเซทิลโคเอนไซม์ เอ
- เกิดจากกรดไพรูวิก ซึ่งมีคาร์บอน 3 อะตอม ทำปฏิกิริยากับโคเอนไซม์ เอ ได้อะเซทิลโคเอนไซม์ เอ ที่มีคาร์บอน 2 อะตอมเข้าสู่กระบวนการวัฏจักรเครบส์ต่อไป
- เมื่อเสร็จสิ้นปฏิกิริยาของกระบวนการนี้จะเกิด CO2 2 โมเลกุล เกิดไฮโดรเจน 4 อะตอม เนื่องจากมรกรดไพรูวิกเข้าทำปฏิกิริยา 2 โมเลกุล ซึ่งมี NAD+ มารับกลายเป็น 2(NADH+H+)
3.3.วัฏจักรเครบส์
- กระบวนการนี้เกิดขึ้นในไมโตคอนเดรียบริเวณของเหลว
- การสลายกลูโคส 1 โมเลกุล เกิด acetyl Co.A 2 โมเลกุล จึงต้องเกิดวัฏจักรเครบส์ 2 รอบ
3.4.กระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอน
- เกิดขึ้นในไมโตคอนเดรียบริเวณปุ่มเล็ก ๆ ของเยื่อชั้นในของไมโตคอนเดรีย
- เกิดขึ้นในภาวะที่มีการหายใจแบบใช้ออกซิเจน คือ มี O2 อยู่ด้วย
- พลังงาน ATP ที่เกิดจากกระบวนการอิเล็กตรอนนี้จะได้มากที่สุดถึง 34 ATP จากการสลายกลูโคส 1 โมเลกุล
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ