2.dermal tissue ป้องกันเนื้อเยื่อพืชภายนอกแต่periderm ประกอบด้วย cork corkcambium phellodermเพิ่มเติมจากข้อ2 periderm ป้องกันเนื้อเยื่อพืชภายใน
1. ตอบ สัณฐานวิทยาของพืชดอกเป็นการศึกษาอวัยวะส่วนต่างๆของพืชดอกโดยอาศัยการสังเกต จะอธิบายถึงรูปพรรณสัณฐาน หน้าที่ รวมถึงชนิดของอวัยวะ เช่น สัณฐานวิทยาของราก จะเป็นการ บอกถึง ลักณะทั่วไปของราก ชนิดของราก หน้าที่ของราก เป็นต้น ส่วนกายวิภาคจะเป็นการศึกษาระดับเซลล์ในส่วนต่างๆของพืช เช่น ศึกษาชนิดของเนื้อเยื่อ หน้าที่ของเนื้อเยื่อส่วนต่างๆเป็นต้น2. ตอบ Dermal tissue จะประกอบด้วยเนื้อเยื่อในส่วนที่ปกคลุมต้นพืชซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเชิงซ้อน 2 ชนิด คือ เอพิเดอร์มิส และ Periderm เนื้อเยื่อ เพริเดิร์มทำหน้าที่ป้องกันเนื้อเยื้อภายในจะไปแทนที่ เอพิเดอร์มิส และเป็นเปลือกไม้ (Bark) ชั้นนอกของรากและลำต้นที่แก่แล้ว3. ตอบ ground tissue จะประกอบด้วยเนื้อเยื่อเชิงเดี่ยว คือ parenchyma collenchyma และ sclerenchyma โดยเนื้อที่ส่วนใหญ่ของต้นพืชจะประกอบด้วยระบบนี้ส่วน cortex เป็นชั้นที่ประกอบด้วยเซล์ parenchyma เป็นส่วนใหญ่ีช่วยสะสมน้ำและอาการให้แก่พืชมีอาณาเขตตั้งแต่ใต้ epidermis เข้ามาจนถึงเนื้อเยื่อ endodermis4. ตอบ pith เป็นเนื้อเยื่อส่วนในสุดของลำต้นประกอบด้วยเซลล์พวก parenchyma ทำหน้าที่สะสมอาหารพวกแป้งและสารต่างๆ ส่วน pit คือรอยเว้าบนผนังเซลล์ เป็นส่วนของผนังเซลล์ที่บางมาก มี 2 ชนิดคือ รอยเว้าชนิดไม่มีขอบ (simple pit) และ รอยเว้าชนิดมีขอบ (bordered pit)5. ตอบ เพราะมี companion cell เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ sieve tube member และอาจจะสร้าง enzyme ให้แก่ sieve tube member เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น เพราะ เมื่อ sieve tube member แก่ตัวลงนิวเคลัยสจะสลายไป6. ตอบ tracheid ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำและเกลือแร่ซึ่งจะลำเลียงไปทางด้านข้างๆผ่าน bordered pit และจะลำเลียงได้ดีเมื่อเซลล์ตายแล้ว ส่วน vessel ทำหน้าที่เหมือน tracheid แต่จะลำเลียงขึ้นไปตรงๆ ผ่าน perforation plate7. ตอบ phellogen8. ตอบ ประกอบด้วย secondary xylem และ secondary phloemนาย วิริทธิ์พล เอื้อทรงธรรม ม. 5/1 เลขที่ 37
1. ตอบ กายวิภาคจะเป็นการศึกษาระดับเซลล์ในส่วนต่างๆของพืช เช่น ผนังของเซลล์พืชเป็นสารพวก Cellulose และ Pectin สัณฐานวิทยาของพืชดอกเป็นการศึกษาโครงสร้างภายนอกและหน้าที่ เช่น เป็นดอกสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ เกสรทำหน้าที่อะไร เป็นต้น 2. ตอบ Dermal tissue คือเนื้อเยื่อที่เป็นส่วนที่อยู่ด้านนอกเป็นส่วนที่ปกคลุมลำต้นของพืชแต่ Periderm เป็นเนื้อเยื่อส่วนที่อยุ่นอกสุดเหมือนเพียงแค่เป็นส่วนปกคลุมลำต้นด้านนอกที่แก่แล้วเท่านั้นเอง และการเกิดของ periderm เริ่มจาก cork cambium ซึ่งจัดเป็น secondary meristem เปลี่ยนแปลงมาจากเนื้อเยื่อถาวรที่อยู่ใต้ชั้น epidermis ได้กลุ่มเซลล์รูปร่างแบน ๆ ผนังเซลล์มีสารซูเบอรินฉาบ ทำให้เซลล์มี สีน้ำตาล ทนทาน ไม่ผุง่าย กลุ่มเซลล์ชั้นนี้ เรียกว่า cork 3. ตอบ ไม่แตกต่างเพราะ cortex เป็นส่วนหนึ่งของ Ground tissue และใน cortex จะประกอบไปด้วยParenchyma และ Collenchyma4. ตอบ Pith เป็นเนื้อเยื่อบริเวณกลางลำต้นและราก เป็นcell ที่มีผนังบางและทำหน้าที่สะสมอาหารพวกแป้งและสารต่างๆ ส่วน Pit เป็น รูเล็กๆที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาตุไปทางด้านข้าง5. ตอบ เพราะมี Companion cell ซึ่งอยู่ด้านข้างของ Sieve tube member คอยทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการ metabolism ต่างๆของ Sieve element6. ตอบ Trachied เป็นท่อลำเลียงน้ำไปด้านข้างแต่ Vessel จะลำเลียงน้ำขึ้นไปตรงๆ และเมื่อ Trachied และ Vessel โตเต็มที่ เซลล์จะตายโพรโตพลาสซึมจะสลายตัว ทำให้เกิดเป็นช่องตรงกลางเซลล์เรียก lumen ทำให้ลำเลียงน้ำได้ง่ายขึ้น7. ตอบ phellogen8. ตอบ xylem และ phloem ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของพืชนายฉัตรวีร์ นิรันดร์วงศ์วาน ชั้น ม.5/1 เลขที่ 40
ใครโพส แล้วไม่ลงชื่อ ถือว่าผิด ชื่อ........นามสกุล....ชั้น...เลขที่......
1. สัณฐานวิทยา คือการศึกษาภายนอกของสิ่งมีชีวิต ต่างกับ กายวิภาค ตรงที่ เป็นการศึกษาภายนอก และหน้าที่ ของสิ่งมีชีวิต2.dermal tissue เป็น plant"s outer protective covering ต่าง กับ periderm ตรงที่ เป็นแวค บน epidermal surface ช่วยป้องกันการสูญเสีย น้ำ3.ตอบไม่แตกต่างเพาะ ground tissue ประกอบด้วย cortex,pericycle endodermis4.pit มีรูเล็กๆ ที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาติไปทางด้านข้าง pith เนื้อเยื่อบริเวณ กลางลำต้น เป็นcell ที่มีผนังบาง5.เพราะ ใช้ companion cell ช่วนในการ MEtabolism แทน6. tracheid จะพาน้ำไปข้างๆ ส่วน vessel จะพาน้ำไปข้างบน เมื่อโตเต็มที่ เซลล์จะตาย โพโตพลาซึมจะสลายตัว7. Phellogen8. มี Interfascicular cambium กับ Fascicular cambiumนาย ปฏิภาณ กล้าหาญ ม5/1 เลขที่ 49
1. สัณฐานวิทยา กับกายวิภาควิทยา ต่างกันตรงที่ สัณฐานวิทยา จะศึกษาเกี่ยวกับภายนอกของสิ่งมีชีวิต แต่ กายวิภาควิทยา จะศึกษาเกี่ยวกับพวกหน้าที่และการทำงานของระบบภายในของสิ่งมีชีวิต2. dermal tissue มีการเรียงตัวกันชั้นเดียวอยู่ชั้นนอกสุดของโครงสร้าง periderm เป็นเนื้อเยื่อชั้นนอกสุดของพืชที่มีอายุมาก3. cortexเป็นส่วนหนึ่งของgrandtissueเนื่องจากgrandtissueปรกอบด้วยcortex pericycleและ endodermis4. pit มีรูเล็กๆ ที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาติไปทางด้านข้างแต่ว่าpithคือ เนื้อเยื่อบริเวณ กลางลำต้นและราก เป็นcell ที่มีผนังบางๆ5. เพราะ ใช้ companion cell ช่วนในการ MEtabolism แทน6. tracheid ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำและเกลือแร่ ไปทางด้านข้างๆผ่าน bordered pit และจะลำเลียงได้ดีเมื่อเซลล์ตายแล้ว แต่ว่า vessel ทำหน้าที่เหมือนtracheid แต่ว่าจะลำเลียงขึ้นไปตรงๆ ผ่าน perforation plate7. Phellogen8. ประกอบด้วย secondary xylem และ secondary phloemนาย บัณฑิต เสรีสิทธิธรรม ม. ๕/๑ เลขที่ ๔๓
2.dermal tissue ป้องกันเนื้อเยื่อพืชภายนอกแต่periderm ประกอบด้วย cork corkcambium phelloderm
ตอบลบเพิ่มเติมจากข้อ2 periderm ป้องกันเนื้อเยื่อพืชภายใน
1. ตอบ สัณฐานวิทยาของพืชดอกเป็นการศึกษาอวัยวะส่วนต่างๆของพืชดอกโดยอาศัยการสังเกต จะอธิบายถึงรูปพรรณสัณฐาน หน้าที่ รวมถึงชนิดของอวัยวะ เช่น สัณฐานวิทยาของราก จะเป็นการ บอกถึง ลักณะทั่วไปของราก ชนิดของราก หน้าที่ของราก เป็นต้น ส่วนกายวิภาคจะเป็นการศึกษาระดับเซลล์ในส่วนต่างๆของพืช เช่น ศึกษาชนิดของเนื้อเยื่อ หน้าที่ของเนื้อเยื่อส่วนต่างๆเป็นต้น
ตอบลบ2. ตอบ Dermal tissue จะประกอบด้วยเนื้อเยื่อในส่วนที่ปกคลุมต้นพืชซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเชิงซ้อน 2 ชนิด คือ เอพิเดอร์มิส และ Periderm เนื้อเยื่อ เพริเดิร์มทำหน้าที่ป้องกันเนื้อเยื้อภายในจะไปแทนที่ เอพิเดอร์มิส และเป็นเปลือกไม้ (Bark) ชั้นนอกของรากและลำต้นที่แก่แล้ว
3. ตอบ ground tissue จะประกอบด้วยเนื้อเยื่อเชิงเดี่ยว คือ parenchyma collenchyma และ sclerenchyma โดยเนื้อที่ส่วนใหญ่ของต้นพืชจะประกอบด้วยระบบนี้ส่วน cortex เป็นชั้นที่ประกอบด้วยเซล์ parenchyma เป็นส่วนใหญ่ีช่วยสะสมน้ำและอาการให้แก่พืชมีอาณาเขตตั้งแต่ใต้ epidermis เข้ามาจนถึงเนื้อเยื่อ endodermis
4. ตอบ pith เป็นเนื้อเยื่อส่วนในสุดของลำต้นประกอบด้วยเซลล์พวก parenchyma ทำหน้าที่สะสมอาหารพวกแป้งและสารต่างๆ ส่วน pit คือรอยเว้าบนผนังเซลล์ เป็นส่วนของผนังเซลล์ที่บางมาก มี 2 ชนิดคือ รอยเว้าชนิดไม่มีขอบ (simple pit) และ รอยเว้าชนิดมีขอบ (bordered pit)
5. ตอบ เพราะมี companion cell เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ sieve tube member และอาจจะสร้าง enzyme ให้แก่ sieve tube member เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น เพราะ เมื่อ sieve tube member แก่ตัวลงนิวเคลัยสจะสลายไป
6. ตอบ tracheid ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำและเกลือแร่ซึ่งจะลำเลียงไปทางด้านข้างๆผ่าน bordered pit และจะลำเลียงได้ดีเมื่อเซลล์ตายแล้ว ส่วน vessel ทำหน้าที่เหมือน tracheid แต่จะลำเลียงขึ้นไปตรงๆ ผ่าน perforation plate
7. ตอบ phellogen
8. ตอบ ประกอบด้วย secondary xylem และ secondary phloem
นาย วิริทธิ์พล เอื้อทรงธรรม ม. 5/1 เลขที่ 37
1. ตอบ กายวิภาคจะเป็นการศึกษาระดับเซลล์ในส่วนต่างๆของพืช เช่น ผนังของเซลล์พืชเป็นสารพวก Cellulose และ Pectin
ตอบลบสัณฐานวิทยาของพืชดอกเป็นการศึกษาโครงสร้างภายนอกและหน้าที่ เช่น เป็นดอกสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ เกสรทำหน้าที่อะไร เป็นต้น
2. ตอบ Dermal tissue คือเนื้อเยื่อที่เป็นส่วนที่อยู่ด้านนอกเป็นส่วนที่ปกคลุมลำต้นของพืชแต่ Periderm เป็นเนื้อเยื่อส่วนที่อยุ่นอกสุดเหมือนเพียงแค่เป็นส่วนปกคลุมลำต้นด้านนอกที่แก่แล้วเท่านั้นเอง และการเกิดของ periderm เริ่มจาก cork cambium ซึ่งจัดเป็น secondary meristem เปลี่ยนแปลงมาจากเนื้อเยื่อถาวรที่อยู่ใต้ชั้น epidermis ได้กลุ่มเซลล์รูปร่างแบน ๆ ผนังเซลล์มีสารซูเบอรินฉาบ ทำให้เซลล์มี สีน้ำตาล ทนทาน ไม่ผุง่าย กลุ่มเซลล์ชั้นนี้ เรียกว่า cork
3. ตอบ ไม่แตกต่างเพราะ cortex เป็นส่วนหนึ่งของ Ground tissue และใน cortex จะประกอบไปด้วย
Parenchyma และ Collenchyma
4. ตอบ Pith เป็นเนื้อเยื่อบริเวณกลางลำต้นและราก เป็นcell ที่มีผนังบางและทำหน้าที่สะสมอาหารพวกแป้งและสารต่างๆ ส่วน Pit เป็น รูเล็กๆที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาตุไปทางด้านข้าง
5. ตอบ เพราะมี Companion cell ซึ่งอยู่ด้านข้างของ Sieve tube member คอยทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการ metabolism ต่างๆของ Sieve element
6. ตอบ Trachied เป็นท่อลำเลียงน้ำไปด้านข้างแต่ Vessel จะลำเลียงน้ำขึ้นไปตรงๆ และเมื่อ Trachied และ Vessel โตเต็มที่ เซลล์จะตายโพรโตพลาสซึมจะสลายตัว ทำให้เกิดเป็นช่องตรงกลางเซลล์เรียก lumen ทำให้ลำเลียงน้ำได้ง่ายขึ้น
7. ตอบ phellogen
8. ตอบ xylem และ phloem ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของพืช
นายฉัตรวีร์ นิรันดร์วงศ์วาน ชั้น ม.5/1 เลขที่ 40
ใครโพส แล้วไม่ลงชื่อ ถือว่าผิด
ตอบลบชื่อ........นามสกุล....ชั้น...เลขที่......
1. สัณฐานวิทยา คือการศึกษาภายนอกของสิ่งมีชีวิต ต่างกับ กายวิภาค ตรงที่ เป็นการศึกษาภายนอก และหน้าที่ ของสิ่งมีชีวิต
ตอบลบ2.dermal tissue เป็น plant"s outer protective covering ต่าง กับ periderm ตรงที่ เป็นแวค บน epidermal surface ช่วยป้องกันการสูญเสีย น้ำ
3.ตอบไม่แตกต่างเพาะ ground tissue ประกอบด้วย cortex,pericycle endodermis
4.pit มีรูเล็กๆ ที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาติไปทางด้านข้าง
pith เนื้อเยื่อบริเวณ กลางลำต้น เป็นcell ที่มีผนังบาง
5.เพราะ ใช้ companion cell ช่วนในการ MEtabolism แทน
6. tracheid จะพาน้ำไปข้างๆ ส่วน vessel จะพาน้ำไปข้างบน เมื่อโตเต็มที่ เซลล์จะตาย โพโตพลาซึมจะสลายตัว
7. Phellogen
8. มี Interfascicular cambium กับ Fascicular cambium
นาย ปฏิภาณ กล้าหาญ ม5/1 เลขที่ 49
1. สัณฐานวิทยา กับกายวิภาควิทยา ต่างกันตรงที่ สัณฐานวิทยา จะศึกษาเกี่ยวกับภายนอกของสิ่งมีชีวิต แต่ กายวิภาควิทยา จะศึกษาเกี่ยวกับพวกหน้าที่และการทำงานของระบบภายในของสิ่งมีชีวิต
ตอบลบ2. dermal tissue มีการเรียงตัวกันชั้นเดียวอยู่ชั้นนอกสุดของโครงสร้าง periderm เป็นเนื้อเยื่อชั้นนอกสุดของพืชที่มีอายุมาก
3. cortexเป็นส่วนหนึ่งของgrandtissueเนื่องจากgrandtissueปรกอบด้วยcortex pericycleและ endodermis
4. pit มีรูเล็กๆ ที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาติไปทางด้านข้างแต่ว่าpithคือ เนื้อเยื่อบริเวณ กลางลำต้นและราก เป็นcell ที่มีผนังบางๆ
5. เพราะ ใช้ companion cell ช่วนในการ MEtabolism แทน
6. tracheid ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำและเกลือแร่ ไปทางด้านข้างๆผ่าน bordered pit และจะลำเลียงได้ดีเมื่อเซลล์ตายแล้ว แต่ว่า vessel ทำหน้าที่เหมือนtracheid แต่ว่าจะลำเลียงขึ้นไปตรงๆ ผ่าน perforation plate
7. Phellogen
8. ประกอบด้วย secondary xylem และ secondary phloem
นาย บัณฑิต เสรีสิทธิธรรม ม. ๕/๑ เลขที่ ๔๓