Uploaded with ImageShack.us

วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 28, 2553



ข้อคำถาม มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/3

74 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อเยื้อถาวรเชิงเดี่ยวคือการที่มีเซลล์ชนิดเดียวกันหลายๆเซลล์อยู่รวมกันเช่น ผิวที่เคลือบของต้นไม้ในระยะแรก

    เนื้อเยื้อถาวรเชิงซ้อนคือการที่มีเซลล์ต่างชนิดกันหลายๆเซลล์อยู่รวมกันเช่น Xylum และ Pholum

    ใบคืออวัยวะสำคัญของพืชที่ทำหน้าที่สังเคราะห์แสงและหายใจ

    ส่วนประกอบของใบคือ
    1)แผ่นใบ มักแผ่เป็นขนานใหญ่และรูปร่างที่ต่างกัน
    2)ก้านใบ เป็นส่วนที่ติดกับแผ่นใบ
    3)หูใบ จะอยู่ตรงโคนบริเวณของก้านใบ

    นายชยณัฐ หอกันยา ม.5/3 เลขที่ 37

    ตอบลบ
  2. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว คือ เนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ทำหน้าที่ เป็นผิวเคลือบต้นไม้ ป้องกันการระเหยของน้ำ เสริมความแข็งแรง และ สะสมอาหาร

    ส่วนเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนนั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกันซึ่งจะประกอบด้วย
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงสารอาหาร
    มีหน้าที่ลำเลียงน้ำและสารอาหาร และ มีการสะสมอาหาร

    2อย่างนี้ต่างกันที่ เนื้อเยื่อเชิงเดียว เป็นเซลล์ถาวรชนิดเดียวส่วน เนื้อเยื่อเชิงเดียวนั้น เป็นเซลล์หลายชนิดมารวมตัวกัน
    และ ทำหน้าที่แตกต่างกัน

    ส่วนประกอบของใบประกอบด้วย
    1.แผ่นใบ คือ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน และ ในแผ่นใบก็จะมีเส้นใบซึ่งจะต่อเป็นเนื้อเดียวกับก้านใบและจะแยกแขนงออกไปเป็นเส้นแขนงใบ
    2.ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ ก้านใบสั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีก้านใบเลย
    3.หูใบ คือ ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบมีลักษณะเป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มีสีเขียว หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    นาย เอกวุฒิ ตันมีชัย ม.5/3 เลขที่ 31

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกันลักษณะ เหมือนกันทำหน้าที่คล้ายกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนนั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกันซึ่งจะประกอบด้วย
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงสารอาหาร

    แผ่นใบ คือ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน
    ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ
    หูใบ คือ ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบมีลักษณะ เป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ

    นาย ณัฐพล หุ่นเก่า 5/3 เลขที่ 9

    ตอบลบ
  5. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเซลล์ที่เกิดมาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำและป้องการไม่ให้น้ำเข้าไป ส่วนเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน จะเกิดจากเนื้อเยื่อที่ต่างชนิดกันมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่ร่วมกันซึ่งหน้าที่ก็คือสะสมพวกน้ำและแร่ธาตุต่างๆ

    ใบ เป็นอวัยวะของพืชที่ใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง มีส่วนประกอบดังนี้
    1.แผ่นใบ มีขนาดและรูปร่างที่ต่างกัน
    2.ก้านใบ ซุ่งเป็นส่วนที่ติดกับกิ่งและลำต้น
    3.หูใบ เป็นเส้นเล็กๆอยู๋ตรงกลางใบ

    เจตนา ธนาสุทธิเสรี ม.5/3 เลขที่ 23

    ตอบลบ
  6. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดียว เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกันและทำหน้าร่วมกัน เช่นพวก เอพิเดอร์มิส

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกัน และทำหน้าที่ดึยวกุน เช่นพวกท่อลำเลียงต่างๆ

    ใบคืออวัยวะที่สำคัญของพืชติดกับก้านใบทำหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง
    มีส่วนประกอบส่วน
    1 แผ่นใบ คือแผ่นที่ติดกับก้ายใบ มีขนาดต่างกัน
    2 ก้านใบ อยู่ติดกับแผ่นใบ เป็นฐานให้แผ่นใบบางชนิดอยู่กลางแผ่นใบ
    3 หูใบ อยตรงโคนก้านใบ

    นายธนกร สันติธรรมากร ม. 5/3 เลขที่39

    ตอบลบ
  7. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดียว
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน
    เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา

    ใบ
    ใบ คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์ ใบมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช
    ใบประกอบด้วย ก้านใบ แผ่นใบ เส้นกลาง และเส้นใบ


    บุญพิทักษ์ อุทัยวิวัฒนา 5/3 10

    ตอบลบ
  8. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  9. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว

    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด เช่น
    เอพิเดอร์มิส (Epidermis)
    พาเรงคิมา (Parenchyma)
    คอลเลงคิมา (Collenchyma)
    สเกลอเรงคิมา (Sclerenchyma)
    เอนโดเดอร์มิส (Endodermis)
    คอร์ก (Cork)

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน

    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกัน
    และทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle)

    ส่วนประกอบของใบ
    1.แผ่น ใบ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน และ ในแผ่นใบก็จะมีเส้นใบซึ่งจะต่อเป็นเนื้อเดียวกับก้านใบและจะแยกแขนงออกไป เป็นเส้นแขนงใบ เส้นของใบมีสองแบบ
    แบบแขนงกับแบบเส้นตรง

    2.ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ

    3.หู ใบ คือ ส่วนที่เจริญออกจากฐานใบ ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้กับ ตาอ่อนพบมีทั่วไปในพืชใบเลี้ยงคู่ แต่ไม่ค่อยพบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว

    ธีรเดช ศรีธิมาสถาพร ม5/3 เลขที่30

    ตอบลบ
  10. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  11. เนื้อเยื้อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเซลล์ที่เกิดมาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันและทำหน้าที่ร่วมกันจะอยู่ผิวนอกสุดของส่วนต่าง ๆ ของพืช
    "ถ้าเปรียบกับตัวเราก็คือหนังกำพร้า"
    ช่วยป้องกันอันตรายให้กับเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างใน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ป้องกันการระเหยน้ำแล้วช่วยป้องกันน้ำไม่ ให้ซึมเข้าไปข้างใน ช่วยในการแลกเปลี่ยนแก๊สทั้งไอน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน โดยทางปากใบแล้วก็ช่วยดูดน้ำและเกลือแร่โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางขนราก
    ส่วนเนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อนจะเกิดจากเนื้อเยื่อที่ต่างชนิดกันมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน
    ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำอนินทรียสารและวัตถุดิบเป็นสารละลาย รวมทั้งแร่ธาตุ ๆ จากรากขึ้นข้างบนไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของพืช

    ใบ คือ อวัยวะของพืชที่ออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง
    ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์
    ใบมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช
    ทำหน้าที่หลักในการ สังเคราะห์แสง หายใจ และคายน้ำ
    นอกจากนี้ใบยังเปลี่ยนแปลงไปเพื่อทำหน้าที่พิเศษอื่นๆอีก
    ใบประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่ แผ่นใบ และก้านใบ
    นอกจากนี้ใบพืชบางชนิดอาจจะมี หูใบ อยู่ข้างก้านใบหรือด้านล่าง
    แผ่นใบ มีเส้นใบจะเป็นกลุ่มเนื้อเยื่อท่อลำเลียง ทำหน้าที่ลำเลียงธาตุอาหาร น้ำ อาหาร และช่วยทำให้แผ่นใบคงรูปอยู่ได้
    ก้านใบ เป็นโครงสร้างที่เชื่อมต่อระหว่างลำต้นหรือกิ่งกับแผ่นใบ
    หูใบ เป็นส่วนของใบที่ยื่นออกมาจากโคนของก้านใบตรงบริเวณที่ต่อกับลำต้นมี 1-2 อันมักมีสีเขียวช่วยสังเคราะห์แสงได้ หูใบมีรูปร่างต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของพืช

    พงศ์ภัค กิตติวราภรณ์ ม.5/3 เลบที่35

    ตอบลบ
  12. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวกับเยื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนเเตกต่างกันอย่างไร พร้อมยกตัวอย่าง
    เเตกต่างกันคือเนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวจะมีการทำหน้าที่ร่วมกันของเนื้อเยื่อถาวรชนิดเดียวกัน เเต่เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนจะมีการทำหน้าที่เดียวกันจากเซลล์หลายชนิด
    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว
    เนื้อเยื่อพาเรงคิมาเป็นเนื้อเยื่อเชิงเดี่ยวถาวร เกิดจากเซลล์พาเรงคิมาหลายเซลล์มาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน
    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำคือ
    1.เทรคีด
    2.เวสเซล เมมเบอร์
    3.ไซเล็มพาเรงคิมา
    4.ไซเล็มไฟเบอร์
    ใบ และส่วนประกอบของใบนั้นคืออะไร ยกตัวอย่าง พร้อมรูปประกอบด้วย
    ใบคือส่วนประกอบของพืชที่เจริญออกไปทางด้านข้างส่วนใหญ่มีหน้าที่สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ
    ใบประกอบด้วย
    แผ่นใบ แผ่นใบประกอบด้วย เส้นใบ
    ก้านใบ
    หูใบ

    นายธนพงษ์ คุณชัยเกษม ม.5/3 เลขที่ 25

    ตอบลบ
  13. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว คือ เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่เดียวกันมีหลายชนิด ช่วยป้องกันอันตรายให้แก่เนื้อเยื่อที่อยู่ภายใน และเสริมความแข็งแรง ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำ ได้แก่ พาเรงคิมา เป็นเซลล์รูปร่างทรงกระบอกหลายเหลี่ยมค่อนค้างกลม หรือ รี ทำหน้าที่เก็บสะสมน้ำและอาหาร
    ส่วน เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน คือ เป็นเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย กลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำคือ เทรคีด เวสเซล เมมเบอร์ ไซเล็มพาเรงคิ ไซเล็มไฟเบอร์ และ
    เนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem) ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์พวก
    ซีฟทิวบ์เมมเบอร์ คอมพาเนียนเซลล์ โฟลเอ็มพาเรงคิ โฟลเอ็มไฟเบอร์
    ใบ คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์
    ส่วนประกอบของใบประกอบด้วย
    1) แผ่นใบ มักแผ่เป็นขนานใหญ่และรูปร่างที่ต่างกัน
    2) ก้านใบ เป็นส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ
    3) หูใบ อยู่ตรงโคนก้านใบ มีลักษณะเป็นริ้ว หนาม ส่วนใหญ่มีสีเขียว มีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    นาย ทรงชัย จิรชูพันธ์ ม.5/3 เลขที่ 38

    ตอบลบ
  14. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว และ เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน มีความแตกต่างกันคือ การเกิดของเนื้อเยื่อ เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เกิดจากการที่เซลล์ถาวรชนิดเดียวกันรวมตัวกัน แต่ ทำหน้าที่ี่วมกันหลายชนิด เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน เกิดจากการที่เซลล์ถาวรหลากหลายชนิดมารวมตัวกันแต่ทำหน้าที่เดียวกัน


    ส่วนประกอยของใบคือ
    1. แผ่นใบ (leaf blade) มีลักษณะเป็นแผ่น มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน
    2. ก้านใบ (petiole) คือส่วนที่เชื่อมระหว่างแผ่นใบและลำต้นแต่ละลำต้น หรือก็คือ กิ่ง
    3. หูใบ (stipule) เป็นรยางค์ที่อยู่โคนก้านใบ พืชบางชนิดหูใบอาจจะไม่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด


    นาย ปณชัย พิเชษฐศิริพร ม.5/3 เลขที่ 1

    ตอบลบ
  15. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  16. (เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว).. คือเซลล์เกิดจากเนื้อเยื่อแบบเดียวกันและทำหน้าที่เดียวกันโดยมากช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำและช่วยไม่ให้น้ำเข้า (เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน).. เกิดจากเนื้อเยื่อคนละชนิดกันมาอยู่ด้วยกันทำหน้าที่เดียวกันมีหน้าที่คือเก็บสะสมน้ำและแร่ธาตุเพื่อใช้ประโยชน์

    ใบคือส่วนที่เจริญออกไปจากกิ่ง
    ใบ มีส่วนประกอบดังนี้
    1.แผ่นใบ //รูปร่างและขนาดที่ไม่เหมือนกัน
    2.ก้านใบ //เป็นส่วนที่ติดกับกิ่งและลำต้น
    3.หูใบ //เป็นเส้นๆเล็กๆอยู่บริเวณกลาง(โคน)ก้านใบ


    นาย พิทูร คณิตรุ่งเรืองสิน ม.5/3 เลขที่6

    ตอบลบ
  17. เนื้อ เยื่อถาวรเชิงซ้อน

    เป็น complex tissue ซึ่งทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำ
    อนินทรีย สารและวัตถุดิบเป็นสารละลาย รวมทั้งแร่ธาตุ จากรากขึ้นข้างบนไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของพืช

    เนื้อเยื่อถาวร คือ เนื้อเยื่อพืชซึ่งประกอบด้วยเซลล์ที่แบ่งตัวไม่ได้ และมีรูปร่างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง

    นาย เดชเด่น ชนะตั้งเจริญ ม.5/3 เลขที่24

    ตอบลบ
  18. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดียว
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ป้องกันการระเหยน้ำ ช่วยป้องกันน้ำไม่ให้ซึมเข้าไปข้างใน ช่วยในการแลกเปลี่ยนแก๊สทั้งไอน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน เช่น เอพิเดอร์มิส(Epidermis) พาเรงคิมา(Parenchyma)

    ใบ
    ใบ คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์ ใบมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช ใบประกอบด้วย ก้านใบ แผ่นใบ เส้นกลาง และเส้นใบ

    โชติวัฒน์ แสงศรี ม.5/3 เลขที่ 13

    ตอบลบ
  19. เนื่อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว คือ เนื่อเยื่อถาวรที่ประกอบด้วยเซลล์ชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็ได้ แต่มีต้นกำเนิดจากเนื่อเยื่อเดียวกันทั้งหมดและทำหน้าที่ร่วมกัน แบ่งเป็น
    1. เนื่อเยื่อถาวรป้องกัน ทำหน้าที่ในการป้องกันอันตราย และลดการสูญเสียน้ำ มักอยู่นอกสุดของรากและลำต้น แบ่งเป็น
    1.1 Epidermis ป้องกันอันตรายเนื่อเยื่อด้านใน ไม่ให้น้ำซึมผ่านและการสูญเสียน้ำ ในลำต้นและใบ เปลี่ยนไปเป็น ขนราก ขนหรือต่อม เซลล์คุม
    1.2 Cork or Phellum เป็นเนื่อเยื่อชั้นนอกสุดของรากและลำต้นในพืชใบเลี้ยงคู่
    2. เนื่อเยื่อพื้น คือ เนื่อเยื่อทั่วๆไปที่เป็นองค์ประกอบในราก ลำต้น และใบ ประกอบด้วย
    2.1 Parenchyma พบมากสุด หน้าที่หลากหลาย ประกอบด้วยเซลล์มีชีวิต ผนังเซลล์บาง
    2.2 Collenchyma มักอยู่รอบนอก ถัดจาก Epidermis ลงมา พบในลำต้นที่อ่อน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ลำต้น ผนังเซลล์หนา
    2.3 Sclerenchyma ผนังเซลล์ 2ขั้น มีความแข็งแรง โดยเซลล์จะตาย เหลือเฉพาะผนังเซลล์
    2.4 Endodermis พบในราก เห็นชัดในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมากกว่าพืชใบเลี้ยงคู่ ผนังเซลล์บาง มีสารป้องกันการสูญเสียน้ำ
    เนื่อเยื่อถาวรเชิงซ้อน คือ เนื่อเยื่อที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มาจากต้นกำเนิดมากกว่า 1 ชนิด มาทำหน้าที่ร่วมกัน ประกอบด้วย
    1. Xylem ทำหน้าที่ในการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(สารอนินทรีย์)
    2. Phloem ทำหน้าที่ในการลำเลียงอาหาร(สารอินทรีย์)
    สรุป ทั้งสองแตกต่างกันตรงที่ต้นกำเนิดของแต่ละเซลล์ คือเซลล์ที่เดียวกันหลายเซลล์ กับเซลล์คนละที่กันหลายเซลล์ที่มาทำหน้าที่ ที่แตกต่างกัน
    ส่วนประกอบของใบประกอบด้วย
    1.แผ่นใบ คือ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน และ ในแผ่นใบก็จะมีเส้นใบซึ่งจะต่อเป็นเนื้อเดียวกับก้านใบและจะแยกแขนงออกไปเป็นเส้นแขนงใบ
    2.ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ ก้านใบสั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีก้านใบเลย
    3.หูใบ คือ ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบมีลักษณะเป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มีสีเขียว หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    ศุภณัฐ สงกา ม.5/3 เลขที่12

    ตอบลบ
  20. 1. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวจะประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกันล้วนๆ ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน ได้แก่ เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา และเพอริเดิร์ม

    เเต่เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนจะ ประกอบด้วยเซลล์หลายชนิดอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อทำหน้าที่ร่วมกัน ได้แก่
    ไซเลมและโฟลเอ็ม ซึ่งอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เรียก
    เนื้อเยื่อท่อลำเลียง


    2.ใบเป็นส่วนประกอบของพืช ส่วนใหญ่มีหน้าที่สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ

    ใบประกอบไปด้วย
    1.แผ่นใบ
    2.ก้านใบ
    3.หูใบ

    เดชเด่น ชนะตั้งเจริญ ม.5/3 เลขที่24

    ตอบลบ
  21. เนื้อเยื่อเชิงเดี่ยว :เป็นเนื้อเยื่อที่เป็นเซลล์ถาวรร่วมกันเป็นชนิดเดียว ได้แก่ เอนโดเดอร์มิส(Endodermis)พาเรงคิมา(Parenchyma) เป็นต้น
    เนื้อเยื่อเชิงซ้อน :เป็นเนื้อเยื่อหลายๆเซลล์ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันด้วย

    ส่วนประกอบของใบ :
    1 แผ่นใบ คือ แผ่นที่ติดอยู่กับใบ
    2 ก้านใบ คือ ส่วนที่อยู่ติดกับแผ่นใบ
    3 หูใบ อยู่ตรงโคนบริเวณก้านใบไม้

    อุดมทรัพย์ ชาธเนศ ม.5/3 เลขที่34

    ตอบลบ
  22. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (simple permanenttisue)ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกันทำหน้าที่อย่างเดียวกัน แบ่งได้หลายชนิดตามหน้าที่และส่วนประกอบภายในเซลล์ ได้แก่ epidermis parenchyma collenchyma sclerenchyma endodermis เเละ cork
    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน ( complex permanent tisue ) ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์หลายชนิดมาอยู่
    รวมกันและทำงานร่วมกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง(vascular tissue)แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ xylem และ phloem

    ใบประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่ แผ่นใบ และก้านใบ นอกจากนี้ใบพืชบางชนิดอาจจะมี หูใบอยู่ข้างก้านใบ หรือด้านล่าง ด้านหลังใบมักมีสีเขียวเข้มกว่าทางด้านท้องใบ แผ่นใบมีเส้นใบซึ่งเป็นกลุ่มเนื้อเยื่อท่อลำเลียง ทำหน้าที่ลำเลียงธาตุอาหาร น้ำ อาหาร

    ประณัฐ ศิริสุวรรณ ม.5/3 เลขที่20

    ตอบลบ
  23. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว : เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิสพาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิสและ คอร์ก
    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน : เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง

    ส่วนประกอปของใบ
    1 แผ่นใบ : มีเส้นใบซึ่งเป็นกลุ่มเนื้อเยื่อท่อลำเลียง ทำหน้าที่ลำเลียงธาตุอาหาร น้ำ อาหาร และช่วยทำให้แผ่นใบคงรูปอยู่ได้
    2 ก้านใบ : เชื่อมต่อระหว่างลำต้นหรือกิ่งกับแผ่นใบ
    3 หูใบ : ทำหน้าที่ป้องกันใบเมื่อยังอ่อน มีรยางค์คู่หนึ่งที่อยู่ตรงฐาน ตรงกลาง หรือตรงปลายทั้งสองข้างของก้านใบ

    ณัฐพงศ์ ชัยณรงค์ ม.5/3 เลขที่ 29

    ตอบลบ
  24. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวเกิดจากเซลล์ชนิดเดียวกันมาอยู่ด้วยกันและทำหน้าที่ร่วมกัน เช่น epidermis parenchyma collenchyma sclerenchyma endodermis เเละ corkแต่เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนเกิดจากเซล์หลายชนิดมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน เช่นเนื้อเยื่อลำเรียง

    ใบเปนอวัยวะที่เจริญออกไปด้านข้างของข้อลำต้นมีหน้าที่สังเคราะห์แสงเปนส่วนใหญ่
    ส่วนประกอบ มี แผ่นใบ ก้านใบ หูใบ ใบจะติดอยู่ที่ก้านใบแล้วก้านใบจะติดกับกิ่งและกิ่งจะติดกับลำต้น
    แผ่นใบ เป็นแผ่นขนาดใหญ่รูปร่างลักษะต่างกันตามชนิดของพืช
    ก้านใบ ก้านใบจะติดส่วนฐานของใบบางชนิดอยู่ตรงกลาง
    หูใบ ติดอยู่ที่บริเวณโคนก้านใบมีลักษณะเป็นริ้วหรือหนาม มีขนาดลัรูปร่างต่างกัน

    นาย วัชระพงษ์ ลิขิตรัตติวงศ์ 5/3 เลขที่27

    ตอบลบ
  25. ข้อ1 เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว จะเป็นเซลล์ที่ประกอบด้วยเซลล์ชนิดเดียวกันหลายๆเซลล์ มาทำหน้าที่ร่วมกัน

    เนื้อเยือถาวรเชิงซ้อนนั้น จะเป็นเซลล์ที่ประกอบด้วยเซลล์ต่างชนิดกัน หลายๆเซลล์เเล้วทำงานร่วมกัน คือ ไซเอมและโฟลเอ็ม ซึ่งเราเรียกกันว่า เนื้อเยื่อท่อลำเลียง

    ข้อ2 ส่วนประกอบของใบ มี 3 อย่างคือ
    1.แผ่นใบ
    2.ก้านใบ
    3.หูใบ

    นายพิชญพงษ์ พงศ์ทวีทรัีพย์ ม.5/3 เลขที่ 26

    ตอบลบ
  26. 1.เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (simple permanenttisue)
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส,พาเรงคิมา,คอลเลงคิมา,สเกลอเรงคิมา,เอนโดเดอร์มิส และ คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (Complex permanenttissue)
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    2.ใบคือส่วนประกอบของพืช
    ส่วนประกอบของใบ มี 3 อย่าง คือ
    แผ่นใบ ก้านใบ และหูใบ

    กฤษฎา อัครล้ำเลิศวงศ์ ม.5/3 เลขที่41

    ตอบลบ
  27. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิส คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำ เช่น เทรคีด เวสเซล เมมเบอร์ ไซเล็มพาเรงคิมา ไซเล็มไฟเบอร์

    ใบ เป็นอวัยวะที่ออกมาจากข้อปล้องของลำต้น หน้าที่หลักคือ สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ
    ประกอบด้วย 1)แผ่นใบ มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2)ก้านใบ ติดกับแผ่นใบตรงฐาน ยกเว้นบางชนิด ส่วนมากมีลักษณะกลม
    3)หูใบ เป็นระยางค์โดยอยู่ตรงโคนก้านใบ หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    นราธิป วิไลเจริญตระกูล ม.5/3 เลขที่ 15

    ตอบลบ
  28. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissue): เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส(Epidermis) พาเรงคิมา(Parenchyma) คอลเลงคิมา(Collenchyma)
    สเกลอเรงคิมา (Sclerenchyma) เอนโดเดอร์มิส(Endodermis)และ คอร์ก (Cork)

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน (Complex permanent tissue):เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    ชนิดของใบ
    1.แผ่นใบ ( blade หรือ lamina ) มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2. ก้านใบ ( petiole )
    ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ ก้านใบสั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีก้านใบเลย เรียก sessile leaf ก้านใบโดยมากมีลักษณะกลม ใบพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด ก้านใบแผ่หุ้มลำต้นเรียกกาบใบ ( leaf sheath )
    3. หูใบ ( stipule )
    เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบ ถ้าเป็นหูใบของในย่อย ( leaflet ) เรียกหูใบย่อย ( stiple ) หูใบมีลักษณะเป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มีสีเขียว หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    ตอบลบ
  29. ธนเนตร์ ดวงแก้ว ม.5/3 เลขที่ 18
    ลืมพิมใส่ไป 555 +

    ตอบลบ
  30. (1.)เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่
    1.เอพิเดอร์มิส(Epidermis)
    2.พาเรงคิมา(Parenchyma)
    3.คอลเลงคิมา(Collenchyma)
    4.สเกลอเรงคิมา (Sclerenchyma)
    5.เอนโดเดอร์มิส(Endodermis)
    6.คอร์ก (Cork)

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    (2.)ใบเปนอวัยวะที่เจริญออกไปด้านข้างของข้อลำต้นมีหน้าที่สังเคราะห์แสงเป็นส่วนใหญ่ ใบประกอบด้วย
    1 แผ่นใบ มีเส้นใบซึ่งเป็นกลุ่มเนื้อเยื่อท่อลำเลียง ทำหน้าที่ลำเลียงธาตุอาหาร น้ำ อาหารและช่วยทำให้แผ่นใบคงรูปอยู่ได้
    2 ก้านใบ เชื่อมต่อระหว่างลำต้นหรือกิ่งกับแผ่นใบ
    3 หูใบ ทำหน้าที่ป้องกันใบเมื่อยังอ่อน มีรยางค์คู่หนึ่งที่อยู่ตรงฐาน ตรงกลาง หรือตรงปลายทั้งสองข้างของก้านใบ

    ดนัย พโนศักดิ์ ม.5/3 เลขที่ 45

    ตอบลบ
  31. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดียว เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเชลล์เดียวกัน และทำหน้าที่ร่วมกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเชลล์หลายชนิดที่มาอยู่ร่วมกัน และทำหน้าที่ร่วมกัน


    ใบ เป็นอวัยวะที่ออกจาข้อปล้องของลำต้น มีหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์ด้วยแสง
    ประกอบด้วย
    1.แผ่นใบ มักแผ่ขนาน จะมีลักษณะต่างกันไปตามชนิดของพืช
    2.ก้านใบ เป็นส่วนที่ติดกับแผ่นใบ
    3.หูใบ เป็นส่วนที่ติดกันก้านใบ ลักษณะเป็น ต่อมเล็กๆ


    นายอดิศักดิ์ รุจิธารณวงศ์ 5/3 เลขที่ 21

    ตอบลบ
  32. 1.เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว(Simple permanent tissue)
    -เป็นเนื้อเยื่อถาวรที่ประกอบด้วยเซลล์ชนิดเดียวหรือหลาย
    ชนิดก็ได้ แต่มีต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อเดียวกันทั้งหมด
    ประกอบด้วย
    1.1.เนื้อเยื่อถาวรป้องกัน(Protective tissue)ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันอันตรายและลดการสูญเสียน้ำ ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ2ประเภทคือ
    1.1.1 Epidermis
    1.1.2 Cork or Phelloderm

    1.2.เนื้อเยื่อพื้น(groung tissue)ซึ่งมีต้นกำเนิดจาก Ground meristem โดยทั่วไปมักอยู่รวมกันเป็นชั้นเรียกว่า Cortex,pith
    1.2.1 Parenchyma
    1.2.2 Collenchyma
    1.2.3 Sclerenchyma
    1.2.4 Endodermis(พบเฉพาะในราก)

    2.เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน(Compound permanent tissue) ประกอบด้วยเซลล์ที่มาจากต้นกำเนิดมากกว่า 1 ชนิด ทำหน้าที่ร่วมกัน ซึ่งเนื้อเยื่อประเภทนี้เป็นเนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    2.1 Xylem ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(สารอนินทรีย์)
    2.2 Phloem ทำหน้าที่ลำเลียงอาหาร(สารอินทรีย์)

    ใบ(Leaves)
    -ใบเป็นส่วนที่พืชใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงด้วยมากที่สุด เนื่องจากมีสารสีหนาแน่น
    -ใบมีลักษณะแบนเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวในการรับแสง โดยใบแบ่งเป็น2ด้านคือ ด้านหลังใบ(Dorsal)และ ด้านท้องใบ(Ventral)
    ใบประกอบด้วย
    *แผ่นใบ(Blade) มีปลายใบ(Apex),ขอบใจ(Margin),เส้นใบ(Vein)
    *ก้านใบ(Petiole) เป็นส่วนที่ต่อกับกิ่งและลำต้น
    นายชัยพร เหลืองสดุดี ม.5/3 เลขที่ 8

    ตอบลบ
  33. เนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ชนิดเดียวกัน มาอยู่ร่วมกัน ทำหน้าที่หลายอย่างเช่น คอลเลงคิมา เอพิเดอร์มิส คอร์ก เป็นต้น

    ส่วนเนื้อเยื่อเชิงซ้อนเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดนั้นมาอยู่ด้วยกันทำหน้าที่แบบเดียวกัน เช่น เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ เนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    ใบคือ สิ่งที่ยื่นออกมาจากลำต้นมีสีเขียว สีเขียวนั้นคือ คลอโรฟิลล์ มีหน้าที่สังเคราะห์แสงและคายน้ำ แต่ก็ยังมีหน้าที่พิเศษอีก

    มีส่วนปะกอบดังนี้
    1. แผ่นใบ
    2.ก้านใบ
    3.หูใบ

    วิรชาติ คลังโรจน์ศักดา ม.5/3 เลขที่ 49

    ตอบลบ
  34. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว คือ เนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยเซลล์ชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่อย่างเดียวกันเช่น
    เอพิเดอร์มิส ซึ่งทำหน้าที่
    1.ป้องกันเนื้อเยื่อที่อยู่ภายใน
    2.ดูดซึมน้ำและแร่ธาตุ
    3.ป้องกันไม่ให้พืชคายน้ำมากเกินไปและป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้ามากเกินไป

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน คือ เนื้อเยื่อที่ประกอบด้วย เซลล์หลายชนิดอยู่รวมกัน และทำหน้าที่อย่างเดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง(Vascular bundle)ซึ่งประกอบด้วย
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(Xylem) และ
    เนื้อเยือลำเลียงอาหาร(Pholoem)

    ใบ คือ อวัยวะที่พืชใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง ประกอบด้วย
    1.แผ่นใบ คือ ส่วนที่ติดอยู่กับก้านใบ
    2.ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดอยู่กับกิ่งหรือลำต้นและติดกับแผ่นใบ
    3.หูใบ คือ ส่วนที่ยื่นออกมาจากโคนก้านใบ

    ชลกร ลาภธนวัฒน์ ม.5/3 เลขที่16

    ตอบลบ
  35. 1.1 เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่
    -เอพิเดอร์มิส
    -พาเรงคิมา
    -คอลเลงคิมา
    -สเกลอเรงคิมา
    -เอนโดเดอร์มิส
    -คอร์ก

    1.2 เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    -เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ
    -เนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    2.ใบคือส่วนประกอบของพืช ที่มีหน้าที่สังเคราะห์แสง
    ส่วนประกอบของใบ มี 3 อย่าง คือ
    -แผ่นใบ คือ ส่วนที่ติดอยู่กับก้านใบ
    -ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดอยู่กับกิ่งหรือลำต้น และติดกับแผ่นใบ
    -หูใบ คือ ส่วนที่ยื่นออกมาจากโคนก้านใบ
    ธนวัฒน์ เหลืองศุภโชค ม.5/3 เลขที่ 19

    ตอบลบ
  36. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว : เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิส และ คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน : เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    ใบไม้ : คือส่วนที่สร้างอาหารโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ใบไม้มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันหลายแบบ

    ส่วนประกอบของใบ : 1)แผ่นใบ 2)ก้านใบ 3)หูใบ

    นาย ปาลวัฒน์ จุ่นใจดี ม.5/3 เลขที่ 4

    ตอบลบ
  37. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส, พาเรงคิมา, คอลเลงคิมา, สเกลอเรงคิมา,เอนโดเดอร์มิส และ คอร์ก ส่วน
    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    ส่วนประกอบของใบมี 3 ส่วนคือ
    1.แผ่นใบ มักมีขนาดใบ รูปร่างและเส้นใบต่างกัน เส้นใบแบบขนานจะพบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนเส้นใบแบบร่างแหจะพบในพืชใบเลี้ยงคู่
    2. ก้านใบ ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ ก้านใบสั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีก้านใบเลย เรียก sessile leaf ก้านใบโดยมากมีลักษณะกลม ใบพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด ก้านใบแผ่หุ้มลำต้นเรียกกาบใบ
    3. หูใบ เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบ ถ้าเป็นหูใบของในย่อย เรียกหูใบย่อย หูใบมีลักษณะเป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มีสีเขียว หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    นาย ธนวินท์ แฉ่งสวัสดิ์ ชั้น ม.5/3 เลขที่ 47

    ตอบลบ
  38. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว simple permanent tiisue
    ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกัน ทำหน้าที่อย่างเดียวกันแบ่งตามหน้าที่และส่วนประกอบภายในเซลล์ได้แก่
    1.เอพิเดอร์มิส epidermis
    2.พาเรงคิมา parenchyma
    3.คอลเรงคิมา collenchyma
    4.สเกลอเรงคิมา sclerenchyma
    5.เอนโดเดอร์มิส endodermis
    6. คอร์ก cork
    ซึ่งส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำและไม่ให้น้ำเข้าไปมากเกินไป

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน complex permanent tissue
    เซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อท่อลำเลียง vascular bundle แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ไซเลม และ โฟลเอม
    1. ไซเลม xylemเนื้อเยื่อทำหน้าที่ในการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุประกอบด้วยเซลล์ที่ทำหน้าที่หลักในการลำเลียง
    2. โฟลเอม phloem เนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร
    ซึ่งสรุปได้ว่าเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนจะทำหน้าที่เกี่ยวกับด้ายลำเลียงและสะสมแร่ธาตุ

    ใบ คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์
    ส่วนประกอบของใบประกอบด้วย
    1. แผ่นใบ มักแผ่เป็นขนานใหญ่และรูปร่างที่ต่างกัน
    2. ก้านใบ เป็นส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ
    3. หูใบ อยู่ตรงโคนก้านใบ มีลักษณะเป็นริ้ว หนาม ส่วนใหญ่มีสีเขียว มีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    ิํbY อธิณัฐ แก้วชูกุล ม.5/3 เลขที่22

    ตอบลบ
  39. - เนื้อเยื่อถาวรเชิงเี่ดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อถาวรชนิดเดียว กันมาทำหน้าที่ร่วมกัน ได้แก่ เอพิเดอร์มิส(epidermis) พาเรงคิมา(parenchyma) คอลเลงคิมา(collenchyma) สเคอเรงคิมา(sclerrenchyma) เอนโดเดอร์มิส(endodermis)และคอร์ก(cork) ส่วนเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน เกิดจากเซล,ืหลายๆชนิดมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียง(vascular bundle) ซึ่งปรักอบด้วย เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(xylem)และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร(phloem)

    - ใบ ( Leaves )
    เป็นอวัยวะที่เจริญออกไปบริเวณด้านข้างโดยมีตำแหน่งอยู่ที่ข้อปล้องของต้น รูปร่างและขนาดของใบแตกต่างกันไป ตามชนิดของพืช หน้าที่หลักของใบคือใช้ในการสังเคราะห์แสง การหายใจและการคายน้ำ ส่วนประกอบของใบมี 3 ส่วนคือ แผ่นใบ ( blade หรือ lamina ) ก้านใบ ( petiole ) และหูใบ ( stipule)

    นาย เจตนา แสงมาน ม.5/3 เลขที่ 7

    ตอบลบ
  40. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissue):
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิf ได้แก่ เอพิเดอร์มิส(Epidermis) พาเรงคิมา(Parenchyma) คอลเลงคิมา(Collenchyma)
    สเกลอเรงคิมา (Sclerenchyma) เอนโดเดอร์มิส(Endodermis)และ คอร์ก (Cork)
    เอพิเดอร์มิส (Epidermis)
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์เอพิเดอร์มิสหลายเซลล์มาอยู่รวมกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน (Complex permanent tissue)
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    ใบประกอบด้วย
    1.ก้านใบ
    2.แผ่นใบ
    3.หูใบ

    นาย นวกิตติ์ บุญเพ็ชร์ ม.5/3 เลขที่ 3

    ตอบลบ
  41. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิเดียวกันลักษณะ เหมือนกันทำหน้าที่คล้ายกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนนั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกันซึ่งจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงสาอาหาร

    แผ่นใบ คือ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่ตกต่างกัน
    ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ
    หูใบ คือ ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบ
    นาย วิทิต พิบูลกุลสัมฤทธิ์ 5/3 เลขที่ 11

    ตอบลบ
  42. ใครโพส แล้วไม่ลงชื่อ ถือว่าผิด
    ชื่อ........นามสกุล....ชั้น...เลขที่......

    ตอบลบ
  43. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissue): เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส(Epidermis) พาเรงคิมา(Parenchyma) คอลเลงคิมา(Collenchyma)
    สเกลอเรงคิมา (Sclerenchyma) เอนโดเดอร์มิส(Endodermis)และ คอร์ก (Cork)

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน (Complex permanent tissue):เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    ชนิดของใบ
    1.แผ่นใบ ( blade หรือ lamina ) มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2. ก้านใบ ( petiole )
    ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ ก้านใบสั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีก้านใบเลย เรียก sessile leaf ก้านใบโดยมากมีลักษณะกลม ใบพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด ก้านใบแผ่หุ้มลำต้นเรียกกาบใบ ( leaf sheath )
    3. หูใบ ( stipule )
    เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบ ถ้าเป็นหูใบของในย่อย ( leaflet ) เรียกหูใบย่อย ( stiple ) หูใบมีลักษณะเป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มีสีเขียว หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน


    นายสุธิศักดิ์ ทองปลิว ม.5/3 เลขที่ 28

    ตอบลบ
  44. รากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจะมีไซเลมและโฟลเอมจำนวน 1-6 แฉก
    รากพืชใบเลี้ยงคู่จะมีไซเลมและโฟลเอมจำนวนมากกว่า6แฉก


    จีรวัฒน์ ลาภอุดมทรัพย์ 5/5 เลขที่ 3

    ตอบลบ
  45. *เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว หมายถึงเนื้อเยื่อที่ประกอบมาจากกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกันหรือมีเพียงเซลล์ชนิดเดียว ที่เปลี่ยนแปลงมาเพื่อทำหน้าที่อย่างเดียวกันได้แก่ epidermis,parenchyma,collenchyma,sclerenchyma(fiber/sclereid)และ secretory tissue

    *เยื่อถาวรเชิงซ้อน เกิดจากเซลล์ืหลายชนิดมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ได้แก่ vascular bundle จะประกอบด้วย เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(xylem)และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร(phloem)

    ใบเป็นส่วนประกอบของพืช ส่วนใหญ่มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซ,สังเคราะห์แสง,หายใจและคายน้ำ

    ใบประกอบไปด้วย
    1.แผ่นใบ
    2.ก้านใบ
    3.หูใบ

    อุดมวิทย์ สุขทิศ ม.5/5 เลขที่ 45

    ตอบลบ
  46. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว คือ เนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน

    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    ใบ ( Leaves )
    เป็นอวัยวะที่เจริญออกไปบริเวณด้านข้างโดยมีตำเหน่งอยู่ที่ข้อปล้องของต้นและกิ่งใบส่วนใหญ่จะมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์รูปร่างและขนาดของใบแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช หน้าที่หลักของใบคือใช้ในการสังเคราะห์แสง การหายใจและการคายน้ำ

    ใบประกอบไปด้วย
    1.แผ่นใบ
    2.ก้านใบ
    3.หูใบ

    ศิลป์ ผดุง ม.5/5 เลขที่ 32

    ตอบลบ
  47. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน(Complex permanent tissue)
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว(Simple permanent tissue)
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน
    เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา

    ใบ( Leaves )
    คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์
    ส่วนประกอบของใบประกอบด้วย
    1) แผ่นใบ ( blade หรือ lamina )มักแผ่เป็น
    ขนานใหญ่และรูปร่างที่ต่างกัน
    2) ก้านใบ( petiole ) เป็นส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรง
    ฐานใบ
    3) หูใบ( stipule ) อยู่ตรงโคนก้านใบ มีลักษณะ
    เป็นริ้ว หนาม ส่วนใหญ่มีสีเขียว มีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    ตอบลบ
  48. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน(Complex permanent tissue)
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ(Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว(Simple permanent tissue)
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน
    เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา

    ใบ( Leaves )
    คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์
    ส่วนประกอบของใบประกอบด้วย
    1) แผ่นใบ ( blade หรือ lamina )มักแผ่เป็น
    ขนานใหญ่และรูปร่างที่ต่างกัน
    2) ก้านใบ( petiole ) เป็นส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรง
    ฐานใบ
    3) หูใบ( stipule ) อยู่ตรงโคนก้านใบ มีลักษณะ
    เป็นริ้ว หนาม ส่วนใหญ่มีสีเขียว มีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    นาย สุพัฒน์ อู่อรุณ ม.5/5 เลขที่ 12..........

    ตอบลบ
  49. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  50. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิส คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำ เช่น เทรคีด เวสเซล เมมเบอร์ ไซเล็มพาเรงคิมา ไซเล็มไฟเบอร์

    ใบ เป็นอวัยวะที่ออกมาจากข้อปล้องของลำต้น หน้าที่หลักคือ สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ
    ประกอบด้วย 1)แผ่นใบ มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2)ก้านใบ ติดกับแผ่นใบตรงฐาน ยกเว้นบางชนิด ส่วนมากมีลักษณะกลม
    3)หูใบ เป็นระยางค์โดยอยู่ตรงโคนก้านใบ หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    ณัฐรงค์ชัย ลิขสิทธิ์พงศ์ เลขที่ 18 ม.5/5

    ตอบลบ
  51. ไม่ระบุชื่อ3 ธันวาคม 2553 เวลา 04:24

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิส คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำ เช่น เทรคีด เวสเซล เมมเบอร์ ไซเล็มพาเรงคิมา ไซเล็มไฟเบอร์

    ใบ เป็นอวัยวะที่ออกมาจากข้อปล้องของลำต้น หน้าที่หลักคือ สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ
    ประกอบด้วย 1)แผ่นใบ มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2)ก้านใบ ติดกับแผ่นใบตรงฐาน ยกเว้นบางชนิด ส่วนมากมีลักษณะกลม
    3)หูใบ เป็นระยางค์โดยอยู่ตรงโคนก้านใบ หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน


    นาย กรกช ผลเจริญ ม.5/5 เลขที่15

    ตอบลบ
  52. 1.เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว ประกอบด้วยเซลล์ชนิดเดียวกัน
    ทำหน้าที่คล้ายกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน ประกอบด้วยเซลล์หลายชนิด ทำหน้าที่ต่างกัน

    2.ใบ มีหน้าที่สังเคราะห์แสง และคายน้ำ


    นาย พีรเดช กตัญญูวงศ์เจริญ ม.5/5 เลขที่ 21

    ประกอบด้วย
    แผ่นใบ blade
    ก้านใบ petiole
    เส้นใบ vein

    ตอบลบ
  53. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิส คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำ เช่น เทรคีด เวสเซล เมมเบอร์ ไซเล็มพาเรงคิมา ไซเล็มไฟเบอร์


    ใบ เป็นอวัยวะที่ออกมาจากข้อปล้องของลำต้น หน้าที่หลักคือ สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ
    ประกอบด้วย 1)แผ่นใบ มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2)ก้านใบ ติดกับแผ่นใบตรงฐาน ยกเว้นบางชนิด ส่วนมากมีลักษณะกลม
    3)หูใบ เป็นระยางค์โดยอยู่ตรงโคนก้านใบ หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    นาย จีรวัฒน์ ลาภอุอมทรัพย์ ชั้น ม.5/5 เลขที่ 3

    ตอบลบ
  54. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissue):
             เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส(Epidermis) พาเรงคิมา(Parenchyma) คอลเลงคิมา(Collenchyma)
    สเกลอเรงคิมา (Sclerenchyma) เอนโดเดอร์มิส(Endodermis)และ คอร์ก (Cork)

     

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน (Complex permanent tissue)

         เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)


     

    ใบ ( Leaves )
    เป็นอวัยวะที่เจริญออกไปบริเวณด้านข้างโดยมีตำเหน่งอยู่ที่ข้อปล้องของต้นและกิ่งใบส่วนใหญ่จะมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์รูปร่างและขนาดของใบแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช หน้าที่หลักของใบคือใช้ในการสังเคราะห์แสง การหายใจและการคายน้ำ

    ลักษณะโครงสร้างภายในของใบ
    ส่วนประกอบของใบมี 3 ส่วนคือ แผ่นใบ ( blade หรือ lamina ) ก้านใบ ( petiole ) และหูใบ ( stipule )


    ทัศน์พล เตชวัฒนสิริกุล ม.5/5 เลขที่ 35

    ตอบลบ
  55. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  56. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน
    เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน เช่น
    เนื้อเยื่อลำเลียง (Vascular bundle) ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ (Xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (Phloem)

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดียว
    เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ ร่วมกัน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ป้องกันการระเหยน้ำ ช่วยป้องกันน้ำไม่ให้ซึมเข้าไปข้างใน ช่วยในการแลกเปลี่ยนแก๊สทั้งไอน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน เช่น เอพิเดอร์มิส(Epidermis) พาเรงคิมา(Parenchyma)

    ใบ
    ใบ คือ อวัยวะของพืชที่เจริญออกมาจากข้อของลำต้นและกิ่ง ใบส่วนใหญ่จะมีสารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์ ใบมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช ใบประกอบด้วย ก้านใบ แผ่นใบ เส้นกลาง และเส้นใบ

    อโนทัย โลหะมาศ ม.5/5 เลขที่ 14

    ตอบลบ
  57. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  58. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกันลักษณะ เหมือนกันทำหน้าที่คล้ายกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนนั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกันซึ่งจะประกอบด้วย
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงสารอาหาร

    แผ่นใบ คือ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน
    ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ
    หูใบ คือ ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบมีลักษณะ เป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ

    ฐิติวุฒิ พัชรวรรณกิจ ม.5/5 เลขที่ 16

    ตอบลบ
  59. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวหมายถึง simple permanent tissue)
    เนื้อเยื่อถาวรที่ประกอบมาจากกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกันหรือมีเพียงเซลล์ชนิดเดียว ที่เปลี่ยนแปลงมาเพื่อทำหน้าที่อย่างเดียวกัน บางชนิดประกอบด้วยเซลล์ที่มีชีวิตเมื่อเจริญเต็มที่หรือขณะทำหน้าที่ยังมีโปรโตพลาสซึมอยู่ บางชนิดเป็นเซลล์ที่ไม่มีชีวิต ซึ่งเมื่อเจริญต่อมาแล้วระยะหนึ่งหรือเมื่อเจริญเต็มที่แล้ว ในขณะที่ทำหน้าที่จะไม่มีโปรโตพลาสซึม

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (complex permanent tissue)
    หมายถึงเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์หลายชนิดที่มาทำหน้าที่เฉพาะอย่าง ที่สำคัญในพืช ได้แก่ กลุ่มท่อน้ำ (xylem) และ กลุ่มท่อลำเลียงอาหาร (phloem)

    ทั้งสองอย่างนี้มีจุดที่ต่างกันคือ เนื้อเยื่อเชิงเดียว เป็นเซลล์ถาวรประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกัน ทำหน้าที่อย่างเดียวกันแบ่งตามหน้าที่และส่วนประกอบภายในเซลล์ ส่วน เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ได้แก่ เนื้อเยื่อท่อลำเลียง vascular bundle แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ไซเลม(xylem) และ โฟลเอม (phloem)


    ใบไม้

    ใบไม้คือส่วนที่เรียกว่า โฟลิเอจ เป็นส่วนที่สร้างอาหารโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ใบไม้มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันหลายแบบแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ตามลักษณะที่แตกต่างกันคือ ใบเดี่ยว คือมีแผ่นใบเพียงใบเดียว และใบประกอบซึ่งอยู่บนก้านเดียวกัน

    มีส่วนประกอปคือ
    1.แผ่นใบ ( blade หรือ lamina ) มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน

    2. ก้านใบ ( petiole )
    ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ ยกเว้นบางชนิดก้านใบติดตรงกลางหรือตรงด้านในของแผ่นใบ ก้านใบสั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีก้านใบเลย เรียก sessile leaf ก้านใบโดยมากมีลักษณะกลม ใบพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด ก้านใบแผ่หุ้มลำต้นเรียกกาบใบ ( leaf sheath )

    3. หูใบ ( stipule )
    เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบ ถ้าเป็นหูใบของในย่อย ( leaflet ) เรียกหูใบย่อย ( stiple ) หูใบมีลักษณะเป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่มีสีเขียว หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน


    ธนะพัฒน์ นกสุวรรณ์หิรัศ ม.5/5 เลขที่27

    ตอบลบ
  60. เนื้อเยื่อถาวรที่ประกอบมาจากกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกัน
    หรือมีเพียงเซลล์ชนิดเดียว
    และ
    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนนั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกัน

    แผ่นใบ คือ
    แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน
    ก้านใบ คือ
    ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ
    หูใบ คือ
    ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบมีลักษณะ เป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ

    นาย กฤต หวังรัชนนท์ ม.5/5 เลขที่.6

    ตอบลบ
  61. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  62. เนื้อเยื่อถาวรที่ประกอบ มาจากกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกัน
    หรือมีเพียงเซลล์ชนิดเดียว
    และ

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน เกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่ร่วมกัน

    ใบ มีหน้าที่ หายใจ คายน้ำ แลกเปลี่ยนก๊าซ และสังเคราะห์แสง

    ใบประกอบด้วย

    แผ่นใบ
    ก้านใบ
    หูใบ

    นาย ณพวิทย์ พานิชปฐม ม.5/5 เลขที่ 29 ♥

    ตอบลบ
  63. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด ได้แก่ เอพิเดอร์มิส,พาเรงคิมา,คอลเลงคิมา,สเกลอเรงคิมา เป็นต้น



    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน ได้แก่
    เนื้อเยื่อลำเลียง ประกอบด้วย
    เนื้อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุและเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร

    ใบ
    เป็นอวัยวะที่เจริญออกไปบริเวณด้านข้างโดยมีตำเหน่งอยู่ที่ข้อปล้องของต้นและกิ่งใบส่วนใหญ่จะมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์รูปร่างและขนาดของใบแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช หน้าที่หลักของใบคือใช้ในการสังเคราะห์แสง การหายใจและการคายน้ำ

    ลักษณะโครงสร้างภายในของใบ
    ส่วนประกอบของใบมี 3 ส่วนคือ แผ่นใบ,ก้านใบ และ หูใบ
    นาย สิทธิศักดิ์ วงษานนทเดช ม.5/5 เลขที่ 22

    ตอบลบ
  64. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ชนิดเดียวกันและลักษณะ เหมือนกันทำหน้าที่ร่วมกัน

    เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนนั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกันซึ่งจะประกอบด้วย
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงสารอาหาร

    1)แผ่นใบ คือ แผ่นที่มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน

    2)ก้านใบ คือ ส่วนที่ติดกับแผ่นใบตรงฐานใบ

    3)หูใบ คือ ส่วนที่เป็นระยางค์ อยู่ตรงโคนก้านใบมีลักษณะ เป็นริ้ว หนามหรือต่อมเล็ก ๆ

    ธนกฤต อัศวเรขา ม 5/5 เลขที่ 4

    ตอบลบ
  65. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  66. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน เช่น เอพิเดอร์มิส พาเรงคิมา คอลเลงคิมา สเกลอเรงคิมา เอนโดเดอร์มิส คอร์ก

    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เป็นเนื้อเยื่อที่มาจากเนื้อเยื่อหลายชนิดกันมาอยู่รวมกัน ทำหน้าที่ร่วมด้วยกัน ทำหน้าที่หลักในการลำเลียงน้ำ เช่น เทรคีด เวสเซล เมมเบอร์ ไซเล็มพาเรงคิมา ไซเล็มไฟเบอร์


    ใบ เป็นอวัยวะที่ออกมาจากข้อปล้องของลำต้น หน้าที่หลักคือ สังเคราะห์แสง หายใจและคายน้ำ
    ประกอบด้วย
    1)แผ่นใบ มักแผ่เป็นมีขนาดใบและรูปร่างต่างกัน
    2)ก้านใบ ติดกับแผ่นใบตรงฐาน ยกเว้นบางชนิด ส่วนมากมีลักษณะกลม
    3)หูใบ เป็นระยางค์โดยอยู่ตรงโคนก้านใบ หูใบมีรูปร่างขนาดและสีต่างกัน

    วรัญญู เลียงสุนทรสิทธิ์ ม.5/5 เลขที่26

    ตอบลบ
  67. ♥เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว คือ เนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกัน ทำหน้าที่ เป็นผิวเคลือบต้นไม้ ป้องกันการระเหยของน้ำ เสริมความแข็งแรง และ สะสมอาหาร

    ♥เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน นั้นเกิดจากเซลล์หลายๆชนิดมารวมตัวกันและทำหน้าที่เดียวกันซึ่งจะประกอบด้วย
    เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ และ เนื้อเยื่อลำเลียงสารอาหาร
    มีหน้าที่ลำเลียงน้ำและสารอาหาร และ มีการสะสมอาหาร

    *ใบประกอบด้วย*
    1.ก้านใบ
    2.แผ่นใบ
    3.หูใบ

    นาย ดนัยนันท์ มณีเจริญพงศ์ ม.5/5 เลขที่ 1

    ตอบลบ
  68. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  69. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว เป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์ถาวรชนิดเดียวกันมาอยู่ร่วมกันและทำหน้าที่ร่วมกันมีหลายชนิด
    เนื้อเยื่อถาวรเซิงซ้อน เกิดจากเซลล์หลายชนิดมาอยู่รวมกันและทำหน้าที่เดียวกัน
    ใบ เป็นอวัยวะที่เจริญออกไปบริเวณด้านข้างโดยมีตำเหน่งอยู่ที่ข้อปล้องของต้นและกิ่งใบส่วนใหญ่จะมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์หน้าที่หลักของใบคือใช้ในการสังเคราะห์แสง
    ส่วนประกอบของใบมี 3 ส่วนคือ
    1)แผ่นใบ
    2)ก้านใบ
    3)และหูใบ

    ปกรณ์ หิรัญวัฒนานนท์ ม.5/5 เลขที่ 38

    ตอบลบ
  70. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  71. ต่อ

    ใบ คือ อวัยวะที่งอกออกมานอกลำต้นโดยมีตำแหน่งอยู่ที่ข้อปล้องของต้นและกิ่งใบ มีสีเขียวสีเขียวคือคลอโรฟิลล์
    ส่วนประกอบของใบคือ ส่วนต่างๆของใบมี3ส่วน มีแผ่นใบ ก้านใบ หูใบ โดยหูใบจะมีเฉพาะ พืชบางชนิดเท่านั้น
    ยกตัวอย่าใบของต้นกล้วย ไม่เชื่อไปดูหน้าบ้าน
    ณัชพล เรืองสุรเดช ม.5/5 เลขที่ 30

    ตอบลบ


Uploaded with ImageShack.us
Uploaded with ImageShack.us